สองสิ่งนี้มีความสัมพันธ์กันอย่างมาก เพราะการแต่งหน้านั้นทำให้รูปที่ถ่ายออกมาดูดีมากกว่าหน้าเปล่า ๆ ที่ไม่ได้แต่งเติม จึงจะมาแนะนำเกี่ยวกับการแต่งหน้า และเครื่องสำอาง นะคะ
1. Makeup Base
เมคอัพเบสเป็นส่วนสำคัญของพื้นฐานของการแต่งหน้า เพราะเมืองไทยนั้นมีอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้หน้าที่แต่งไว้หลุดลอกออกไปได้ง่ายในเวลาอันสั้น ซึ่งเมคอัพเบสนี้จะมีคุณสมบัติช่วยให้การแต่งหน้านั้นอยู่ติดทนนานมากยิ่งขึ้นค่ะ
เมคอัพเบสมีให้เลือกหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีคุณสมบัติ ข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
ตัวนี้คือ Acseine ของ Covermark มีคุณสมบัติคือเป็นเมคอัพเบสที่มีกันแดด กันน้ำได้ ควบคุมความมันสำหรับคนหน้ามัน ๆ ได้อย่างน้อย ๆ 3-5 ชั่วโมง แต่จุดที่ควรจำในการใช้ตัวนี้ก็คือ ห้ามทาเดย์ครีมทุกชนิด และต้องทาทันทีหลังจากล้างหน้าเสร็จ และแต่งหน้าลงไปทันทีหลังจากที่ทาแอ็คซีนตัวนี้ด้วยค่ะ
2. รองพื้น
รองพื้นมีด้วยกันสามชนิดคือ ชนิดน้ำ แบบครีม และแบบแป้งผสมครีมรองพื้น
สังเกตตัวเอง มีผิวแบบไหนกันคะ? ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแห้ง เพราะรองพื้นแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่เข้ากันกับผิวแต่ละแบบแตกต่างกันออกไป
- รองพื้นชนิดแป้ง จะค่อนข้างใช้ง่ายที่สุด สามารถพกพาได้สะดวก วิธีใช้คือใช้ฟองน้ำเกลี่ยจากด้านในออกด้านนอก
- รองพื้นชนิดน้ำ เหมาะกับคนที่มีผิวมัน ใช้แล้วจะดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด วิธีใช้คือแต้ม 5 จุดบนใบหน้า คือ หน้าผาก จมูก แก้ม 2 ข้าง และ คาง จากนั้นใช้นิ้วมือเกลี่ยเบา ๆ จากด้านในออกด้านนอกเช่นกัน
- รองพื้นชนิดครีม เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง วิธีใช้ก็เหมือนกับชนิดน้ำค่ะ
การทารองพื้นทั่ว ๆ ไปจุดที่ควรระวังก็คือ บริเวณไรผม คิ้ว เปลือกตา ใต้ตา ปีกจมูก และคอ ซึ่งต้องระมัดระวังในการเกลี่ยให้มีสีเท่ากัน หากเสื้อผ้าเปิดลงมาถึงบริเวณไหล่ และ กระดูกไหปลาร้า ให้ลงรองพื้นให้ทั่วลงมาด้วยนะคะ ไม่เช่นนั้นมันจะดูหลอก ๆ เพราะหน้ากับสีผิวตัวต่างกัน
รองพื้นในปัจจุบันมีคุณสมบัติที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่นในภาพ (จากซ้ายไปขวา) : Maybelline รุ่น Wonder Finish ตอนแรกจะเป็นน้ำแต่เมื่อทาลงไปจะแห้งเร็วและเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเนื้อแป้งได้ ทำให้ไม่รู้สึกเหนอะ ๆ ส่วนตัวถัดมาเป็นรองพื้นแบบครีมของ Covermark ซึ่งมีความเข้มข้นกว่าชนิดน้ำ และสุดท้ายเป็นแป้งผสมรองพื้นของ Missteen รุ่น Oxygen (ใครว่าของถูกไม่ดีไม่จริงเลยนะคะ สำหรับแป้งตัวนี้ - -b)
3. แป้ง
ตอนนี้แป้งก็มีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบเช่นกันค่ะ แบ่งออกเป็นสองแบบ(ไม่รวมแป้งผสมรองพื้น) คือ แป้งฝุ่น กับแป้งอัดแข็ง ซึ่งจะมีเชดสีตามสีผิวของผู้ใช้ให้เลือก และบางตัวก็จะมีการผสมชิมเมอร์(คล้าย ๆ กากเพชรอย่างละเอียด) ลงไปเพื่อเพิ่มความสว่างบนใบหน้า
แป้งอัดแข็งจะแตกต่างกับแป้งฝุ่นแค่เพียงวิธีการบรรจุ มีข้อดีคือพกพาสะดวก แต่คุณสมบัติจะไม่แตกต่างกับแป้งฝุ่นเลย
จากภาพซ้ายเป็นแป้งฝุ่นของ KATE มีชิมเมอร์ ส่วนขวาเป็นแป้งฝุ่นเนื้อบางเบาของ Red earth ค่ะ
วิธีลงรองพื้นให้ติดทนนาน
เริ่มต้นด้วยการทา Makeup Base ถ้าไม่มีให้ใช้ มอยซ์เจอไรเซอร์(เดย์ครีม) หรือ ครีมกันแดด (หากต้องออกแดด แต่รองพื้นบางชนิดจะมีกันแดดในตัวก็ตัดข้อหลังทิ้งไปได้เลยนะคะ) ทาให้ทั่วใบหน้า แล้วจึงทาแป้งฝุ่น หรือแป้งเด็ก จากนั้นให้ใช้แปรงอันใหญ่ปัดแป้งส่วนเกินออกเบา ๆ สำหรับคนที่มีรอยดำจากสิว หรือรอยดำใต้ดวงตาให้ทาคอนซีลเลอร์เพื่อเป็นการปกปิดริ้วรอยก่อนลงแป้งฝุ่นนะคะ(ถ้าไม่มีคอนซีลเลอร์ให้เน้นรองพื้นในบริเวณนั้นให้มากกว่าบริเวณอื่นเล็กน้อย **เล็กน้อยเท่านั้นนะคะ ไม่เช่นนั้นสีจะไม่เสมอกัน) เสร็จแล้วก็เริ่มต้นลงรองพื้นให้ทั่วใบหน้าได้เลยค่ะ จากนั้นก็ลงแป้งฝุ่นอีกที จากนั้นก็ใช้แปรงปัดอีกเช่นเคย เป็นอันเสร็จสิ้นการลงรองพื้นเพื่อผิวที่สวยงาม และจะทำให้เครื่องสำอางค์อื่นที่แต่งแต้มลงไปอยู่ได้ทนขึ้นด้วยค่ะ
**คำเตือน** วิธีนี้ถึงจะติดทนนาน แต่เป็นการแต่งหน้าที่ค่อนข้างหนาพอสมควรค่ะ
เครดิต aichan
1. Makeup Base
เมคอัพเบสเป็นส่วนสำคัญของพื้นฐานของการแต่งหน้า เพราะเมืองไทยนั้นมีอากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้หน้าที่แต่งไว้หลุดลอกออกไปได้ง่ายในเวลาอันสั้น ซึ่งเมคอัพเบสนี้จะมีคุณสมบัติช่วยให้การแต่งหน้านั้นอยู่ติดทนนานมากยิ่งขึ้นค่ะ
เมคอัพเบสมีให้เลือกหลายยี่ห้อ ซึ่งแต่ละยี่ห้อก็จะมีคุณสมบัติ ข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป
ตัวนี้คือ Acseine ของ Covermark มีคุณสมบัติคือเป็นเมคอัพเบสที่มีกันแดด กันน้ำได้ ควบคุมความมันสำหรับคนหน้ามัน ๆ ได้อย่างน้อย ๆ 3-5 ชั่วโมง แต่จุดที่ควรจำในการใช้ตัวนี้ก็คือ ห้ามทาเดย์ครีมทุกชนิด และต้องทาทันทีหลังจากล้างหน้าเสร็จ และแต่งหน้าลงไปทันทีหลังจากที่ทาแอ็คซีนตัวนี้ด้วยค่ะ
2. รองพื้น
รองพื้นมีด้วยกันสามชนิดคือ ชนิดน้ำ แบบครีม และแบบแป้งผสมครีมรองพื้น
สังเกตตัวเอง มีผิวแบบไหนกันคะ? ผิวมัน ผิวผสม หรือผิวแห้ง เพราะรองพื้นแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่เข้ากันกับผิวแต่ละแบบแตกต่างกันออกไป
- รองพื้นชนิดแป้ง จะค่อนข้างใช้ง่ายที่สุด สามารถพกพาได้สะดวก วิธีใช้คือใช้ฟองน้ำเกลี่ยจากด้านในออกด้านนอก
- รองพื้นชนิดน้ำ เหมาะกับคนที่มีผิวมัน ใช้แล้วจะดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด วิธีใช้คือแต้ม 5 จุดบนใบหน้า คือ หน้าผาก จมูก แก้ม 2 ข้าง และ คาง จากนั้นใช้นิ้วมือเกลี่ยเบา ๆ จากด้านในออกด้านนอกเช่นกัน
- รองพื้นชนิดครีม เหมาะกับคนที่มีผิวแห้ง วิธีใช้ก็เหมือนกับชนิดน้ำค่ะ
การทารองพื้นทั่ว ๆ ไปจุดที่ควรระวังก็คือ บริเวณไรผม คิ้ว เปลือกตา ใต้ตา ปีกจมูก และคอ ซึ่งต้องระมัดระวังในการเกลี่ยให้มีสีเท่ากัน หากเสื้อผ้าเปิดลงมาถึงบริเวณไหล่ และ กระดูกไหปลาร้า ให้ลงรองพื้นให้ทั่วลงมาด้วยนะคะ ไม่เช่นนั้นมันจะดูหลอก ๆ เพราะหน้ากับสีผิวตัวต่างกัน
รองพื้นในปัจจุบันมีคุณสมบัติที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น เช่นในภาพ (จากซ้ายไปขวา) : Maybelline รุ่น Wonder Finish ตอนแรกจะเป็นน้ำแต่เมื่อทาลงไปจะแห้งเร็วและเปลี่ยนตัวเองให้เป็นเนื้อแป้งได้ ทำให้ไม่รู้สึกเหนอะ ๆ ส่วนตัวถัดมาเป็นรองพื้นแบบครีมของ Covermark ซึ่งมีความเข้มข้นกว่าชนิดน้ำ และสุดท้ายเป็นแป้งผสมรองพื้นของ Missteen รุ่น Oxygen (ใครว่าของถูกไม่ดีไม่จริงเลยนะคะ สำหรับแป้งตัวนี้ - -b)
3. แป้ง
ตอนนี้แป้งก็มีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบเช่นกันค่ะ แบ่งออกเป็นสองแบบ(ไม่รวมแป้งผสมรองพื้น) คือ แป้งฝุ่น กับแป้งอัดแข็ง ซึ่งจะมีเชดสีตามสีผิวของผู้ใช้ให้เลือก และบางตัวก็จะมีการผสมชิมเมอร์(คล้าย ๆ กากเพชรอย่างละเอียด) ลงไปเพื่อเพิ่มความสว่างบนใบหน้า
แป้งอัดแข็งจะแตกต่างกับแป้งฝุ่นแค่เพียงวิธีการบรรจุ มีข้อดีคือพกพาสะดวก แต่คุณสมบัติจะไม่แตกต่างกับแป้งฝุ่นเลย
จากภาพซ้ายเป็นแป้งฝุ่นของ KATE มีชิมเมอร์ ส่วนขวาเป็นแป้งฝุ่นเนื้อบางเบาของ Red earth ค่ะ
วิธีลงรองพื้นให้ติดทนนาน
เริ่มต้นด้วยการทา Makeup Base ถ้าไม่มีให้ใช้ มอยซ์เจอไรเซอร์(เดย์ครีม) หรือ ครีมกันแดด (หากต้องออกแดด แต่รองพื้นบางชนิดจะมีกันแดดในตัวก็ตัดข้อหลังทิ้งไปได้เลยนะคะ) ทาให้ทั่วใบหน้า แล้วจึงทาแป้งฝุ่น หรือแป้งเด็ก จากนั้นให้ใช้แปรงอันใหญ่ปัดแป้งส่วนเกินออกเบา ๆ สำหรับคนที่มีรอยดำจากสิว หรือรอยดำใต้ดวงตาให้ทาคอนซีลเลอร์เพื่อเป็นการปกปิดริ้วรอยก่อนลงแป้งฝุ่นนะคะ(ถ้าไม่มีคอนซีลเลอร์ให้เน้นรองพื้นในบริเวณนั้นให้มากกว่าบริเวณอื่นเล็กน้อย **เล็กน้อยเท่านั้นนะคะ ไม่เช่นนั้นสีจะไม่เสมอกัน) เสร็จแล้วก็เริ่มต้นลงรองพื้นให้ทั่วใบหน้าได้เลยค่ะ จากนั้นก็ลงแป้งฝุ่นอีกที จากนั้นก็ใช้แปรงปัดอีกเช่นเคย เป็นอันเสร็จสิ้นการลงรองพื้นเพื่อผิวที่สวยงาม และจะทำให้เครื่องสำอางค์อื่นที่แต่งแต้มลงไปอยู่ได้ทนขึ้นด้วยค่ะ
**คำเตือน** วิธีนี้ถึงจะติดทนนาน แต่เป็นการแต่งหน้าที่ค่อนข้างหนาพอสมควรค่ะ
เครดิต aichan